อับดุฟัตโต ซามานอฟ (Abdufatto Zamanov) "ปีศาจร้ายแห่งสุสาน" ทาจิกิสถาน

 

Abdufatto Zamanov 2002-2004

อับดุฟัตโต ซามานอฟ (Abdufatto Zamanov) "ปีศาจร้ายแห่งสุสาน" ทาจิกิสถาน

ทาจิกิสถานในปี 1973 ดินแดนที่ซ่อนอยู่ในเงาของสหภาพโซเวียต อากาศเย็นยะเยือก หมู่บ้านเล็ก ๆ เต็มไปด้วยฝุ่นและความเงียบสงบ วันที่ 7 เมษายน ปีนั้น เด็กชายชื่อ อับดุฟัตโต ซามานอฟ ลืมตาดูโลกในครอบครัวธรรมดา บ้านของเขาคือกระท่อมเรียบง่ายในชนบทของ ทาจิก SSR (สาธารณรัฐสังคมนิยมโซเวียตทาจิกิสถาน) พ่อแม่เป็นชาวนา ใช้ชีวิตแบบวันต่อวัน ปลูกฝ้าย ทำฟาร์ม หาเลี้ยงปากท้องในยุคที่โซเวียตยังครองอำนาจ ชาวบ้านมองครอบครัวซามานอฟว่า "เงียบ ๆ ไม่มีพิษมีภัย" แต่ใครจะรู้ว่าเด็กน้อยที่วิ่งเล่นในท้องทุ่งนี้ จะเติบโตเป็น อสูรกาย ที่พร้อม ฟัน แทง ฉีก ทุกชีวิตที่ขวางหน้า!

วัยเด็กของอับดุฟัตโตเหมือนภาพที่ถูกฉีกขาด—เลือนรางและเต็มไปด้วยรอยขีดข่วน เขาเติบโตในหมู่บ้านที่ห่างไกลความเจริญ โรงเรียนมีแต่ห้องเรียนเก่า ๆ ครูสอนแบบขอไปที เด็ก ๆ ในหมู่บ้านมักวิ่งเล่น ต่อสู้กันตามประสา แต่ซามานอฟไม่ใช่เด็กที่โดดเด่น เขาเงียบขรึม ชอบนั่งมองเพื่อน ๆ ด้วยสายตานิ่งเฉยที่ทำให้เด็กคนอื่นรู้สึก ขนลุก! ชาวบ้านเล่าว่า เขาไม่ค่อยยิ้ม และถ้ายิ้มเมื่อไหร่ มันเหมือนรอยยิ้มของ "หมาป่าที่จ้องเหยื่อ"

ชีวิตในวัยเด็กของซามานอฟไม่ได้มีบันทึกว่าเขาถูกทารุณหรือเติบโตในครอบครัวที่แตกแยกแต่ยุคสมัยนั้นไม่ใช่สวรรค์ ทาจิกิสถานในช่วง 1970s เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยความยากจนและการควบคุมเข้มงวดของโซเวียต เด็ก ๆ อย่างซามานอฟต้องช่วยพ่อแม่ทำงานหนักตั้งแต่เล็ก อาจต้องแบกฟืน ตัดหญ้า หรือเลี้ยงสัตว์ในฟาร์ม แต่มีเรื่องเล่าจากเพื่อนบ้านว่า เขาชอบ ทรมานสัตว์! ใช่แล้ว! ลูกแมวที่หายไปในหมู่บ้าน หรือนกที่ถูกหักคอ มักมีคนสงสัยว่าเป็นฝีมือของ "เจ้าหนูฟัตโต"! ชาวบ้านคิดว่าเป็นแค่พฤติกรรมเด็กซน แต่ที่ไหนได้ มันคือ สัญญาณแรกของปีศาจ ที่กำลังก่อตัว!

เมื่อเข้าสู่วัยรุ่น อับดุฟัตโตเริ่มแสดงด้านมืดชัดเจนขึ้น เขาไม่ค่อยเข้ากับใคร ชอบเก็บตัว และมักมีเรื่องทะเลาะวิวาทในหมู่บ้าน บางครั้งเขาจะชกต่อยเพื่อนแบบ ไร้เหตุผล จนเพื่อน ๆ เริ่มกลัวและหลีกเลี่ยง! มีครั้งหนึ่งที่เขาถูกจับได้ว่า ขโมยของ จากร้านค้าในหมู่บ้าน แต่พ่อของเขารีบเคลียร์เรื่องให้ ทำให้เขาไม่ต้องรับโทษ ชาวบ้านเริ่มมองว่า "ไอ้หนุ่มนี่มันแปลก ๆ" แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า ความแปลกนั้นจะกลายเป็น ความชั่วร้าย ที่จะคร่าชีวิตคนนับสิบ

จุดเปลี่ยนสำคัญ :

ในชีวิตของซามานอฟเกิดขึ้นเมื่อ สหภาพโซเวียตล่มสลาย ในปี 1991 ทาจิกิสถานตกอยู่ในความโกลาหล ความยากจนทวีคูณ สงครามกลางเมืองปะทุขึ้นในปี 1992-1997 ทำให้ชีวิตของชาวบ้านยิ่งลำบาก อับดุฟัตโตในวัย 18 ปี ตัดสินใจหนีออกจากหมู่บ้าน! เขาเดินทางไปยัง คราสโนยาร์สค์ เมืองในไซบีเรีย รัสเซีย ในปี 1993 หวังเริ่มชีวิตใหม่ เมืองนี้หนาวเย็นและเต็มไปด้วยโอกาสสำหรับคนหนุ่มที่ขยัน แต่สำหรับซามานอฟ มันคือ เวทีแห่งความตาย ที่เขาจะได้ปลดปล่อยด้านมืดของตัวเอง!

ในคราสโนยาร์สค์ ซามานอฟทำงานเป็น คนงานก่อสร้าง และ คนงานทั่วไป เขาเช่าห้องพักเล็ก ๆ ในเขตเบรโยซอฟสกี (Beryozovsky District) ใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา ไปทำงาน ซื้อวอดก้า ดื่มกับเพื่อน แต่เพื่อนร่วมงานเริ่มสังเกตว่า เขามี อารมณ์รุนแรง! ถ้ามีคนยั่วโมโห เขาจะจ้องด้วยสายตาที่เหมือนจะ "ฉีกเนื้อ" และบางครั้งถึงขั้นชกต่อย! เขาเริ่มคบหากับผู้หญิงในเมือง และมี แฟนสาว ที่ต่อมากลายเป็นกุญแจสำคัญในการจับกุม แต่ลึก ๆ ในใจของเขา มี ความเกลียดชัง ที่รอวันระเบิด! ชาวบ้านที่รู้จักเขาจะพูดว่า “ฟัตโตน่ะเหรอ? เงียบ ๆ แต่ถ้าโกรธขึ้นมา หนีให้ไวเลย!”

การก่อตัวของซามานอฟ :

ความโกรธและความเกลียดชังนั้นเริ่มปะทุในปี 2002 เมื่อเขาอายุ 29 ปี อับดุฟัตโตเปลี่ยนจากชายหนุ่มเงียบขรึมเป็น ฆาตกรต่อเนื่อง ที่โหดร้ายที่สุดคนหนึ่งของคราสโนยาร์สค์! การฆ่าครั้งแรกของเขาเกิดใน สุสาน—ใช่แล้ว! สถานที่ที่หลอนอยู่แล้ว เขากลับเลือกเป็นจุดเริ่มต้น! เขาใช้ มีด ฟันแทงเหยื่อจนเลือดสาด หัวเราะเยาะขณะที่เหยื่อร้องขอชีวิต! จากนั้น เขาก่อคดีต่อเนื่องถึง 14 ราย ระหว่าง มิถุนายน 2002 ถึงพฤศจิกายน 2004 ฆ่าทั้งชายและหญิง ข่มขืนเด็กสาว และขโมยของมีค่าเหมือนเก็บถ้วยรางวัล! วิธีการของเขาโหดร้าย—ฟัน แทง ชำแหละ ด้วยอะไรก็ได้ที่อยู่ใกล้มือ ไม่ว่าจะเป็นหิน กิ่งไม้ หรือเสื้อผ้าของเหยื่อ! ชาวคราสโนยาร์สค์ถึงกับเรียกเขาว่า "ปีศาจแห่งสุสาน" ก่อนที่สื่อจะตั้งฉายาให้ว่า "คราสโนยาร์สค์ ชิกาติโล" เพราะความโหดที่เหมือน อันเดรย์ ชิกาติโล ฆาตกรชื่อดัง!

ตำรวจ (มิลิตซียา) ในคราสโนยาร์สค์ทำงานหนักราวกับวิ่งแข่งกับความตาย! คดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ทำให้เมืองนี้เหมือนอยู่ในเงาของ อันเดรย์ ชิกาติโล ฆาตกรต่อเนื่องชื่อดัง! พยานบางคนเห็นชายหน้าตาคล้ายคนเอเชีย สูงประมาณ 170 ซม. รูปร่างกำยำ เดินวนเวียนในที่เกิดเหตุ—สวนสาธารณะ ใกล้ร้านกาแฟ หรือสุสานยามค่ำ! ตำรวจทำ ภาพร่างใบหน้า จากคำบอกเล่าของพยาน และเริ่มตั้งจุดตรวจตามถนนสายหลัก แต่ซามานอฟเหมือนผีไร้ตัวตน! เขาไม่มีแบบแผน ไม่เลือกเหยื่อ ไม่ทิ้งร่องรอยชัดเจน นอกจาก ศพที่เปื้อนเลือด และ เครื่องประดับทอง ที่เขาขโมยไปเหมือนถ้วยรางวัล! ชาวบ้านถึงกับร้องว่า “เมืองนี้มีปีศาจสิงอยู่! ช่วยจับมันที!”

จุดพีคเกิดใน พฤศจิกายน 2004 :

เมื่อซามานอฟกลายเป็น พายุแห่งความตาย เขาลงมือฆ่าผู้หญิง 5 ราย ในหมู่บ้านเล็กๆ ในเขตมันสกี (Mansky District) ภายแค่วันเดียว ฟันแทงจนพื้นดินเปื้อนเลือดราวกับฉากในหนังสยองขวัญ! และที่ช็อกกว่านั้นคือ การฆ่า 6 รายในวันเดียว ที่กระท่อมฤดูร้อนในเขตเบรโยซอฟสกี (Beryozovsky District)! เขาใช้มีดและสิ่งของรอบข้างในการ ฉีก แทง จนศพกลายเป็นเศษเนื้อ! การฆ่าครั้งนี้ทำให้ตำรวจถึงกับตั้งทีมพิเศษเพื่อล่าตัวฆาตกร เพราะถ้าปล่อยไว้อีก เมืองนี้อาจกลายเป็น สุสานแน่ๆ

แต่ปีศาจอย่างซามานอฟไม่ได้ร่วงเพราะความฉลาดของตำรวจเพียงอย่างเดียว แต่เพราะปากพล่อยของเขาเองที่เป็นจุดจบ ซามานอฟมี แฟนสาว คนหนึ่งในคราสโนยาร์สค์ ผู้หญิงที่เขาไว้ใจและใช้ชีวิตด้วยในเขตเบรโยซอฟสกี ค่ำวันหนึ่ง อาจจะเมานิด ๆ จากวอดก้า เขาดัน คุยโม้ เรื่องการฆ่าคนให้แฟนสาวฟัง! นั่งจิบวอดก้าด้วยกัน แล้วผัวหันมาบอกว่า “รู้มั้ย ฉันเพิ่งฟันกระบาลคนในสุสานเมื่อคืนมาฟ่ะ” แฟนสาวของเขาไม่ใช่คนโง่!! เธอตกใจจนตัวสั่น รู้ทันทีว่าไอ้หนุ่มนี่ไม่ใช่แค่คนขี้โม้ แต่เป็น ฆาตกรตัวจริง! เธอแกล้งทำเป็นปกติ แต่ในใจร้องว่า “ต้องหนีให้พ้นจากปีศาจตัวนี้!”

แฟนสาวรีบติดต่อ ตำรวจมิลิตซียา ในคราสโนยาร์สค์ แจ้งเบาะแสว่า อับดุฟัตโต ซามานอฟ คือคนที่อาจอยู่เบื้องหลังคดีฆาตกรรมที่กำลังทำให้เมืองนี้แตกตื่น! เธอบอกข้อมูลสำคัญ ที่อยู่ของเขาในเขตเบรโยซอฟสกี และพฤติกรรมแปลก ๆ ที่เขาเล่าถึงการฆ่าและขโมยของจากศพ! ตำรวจไม่รอช้า รวบรวมทีมบุกจับทันที! ในวันที่ 9 ธันวาคม 2004 ทีมตำรวจติดอาวุธครบมือบุกไปที่บ้านพักของซามานอฟ! เขาขัดขืนสุดชีวิต ดิ้นรนเหมือน สัตว์ป่าถูกต้อนจนมุม! มีเรื่องเล่าว่าเขาพยายามคว้ามีดเพื่อสู้ แต่ตำรวจเร็วกว่า จับเขาใส่กุญแจมือ ลากตัวออกมาจากบ้านท่ามกลางสายตาชาวบ้านที่มองด้วยความสยดสยองและโล่งใจ!

เมื่อถูกจับ ซามานอฟยังปากแข็ง อ้างว่า เขาไม่ได้ตั้งใจฆ่า และทุกครั้งเกิดจาก การถูกยั่วโมโห! โถ! ใครจะเชื่อล่ะ! หลักฐานท่วมท้น—รอยเลือดบนเสื้อผ้า ของที่ขโมยจากเหยื่อ และคำให้การของแฟนสาว—ทำให้เขาไม่รอด! ตำรวจยังพบ เครื่องประดับทอง และของมีค่าที่เขาขโมยจากศพในบ้านของเขา! การสอบสวนเผยว่า เขาไม่มีแรงจูงใจที่ชัดเจน—ไม่ใช่เพื่อเงินหรือความแค้น แต่เป็น ความเกลียดชังที่ระเบิดออกมา และความสุขจากการ ฟัน แทง ฉีก เหยื่อ! ชาวบ้านที่รู้ข่าวถึงกับร้องว่า “จับปีศาจได้แล้ว! เมืองนี้ปลอดภัยเสียที!”

หลังการจับกุม คดีของซามานอฟกลายเป็นข่าวใหญ่ในคราสโนยาร์สค์! ปี 2006 ศาลตัดสินให้เขา จำคุก 25 ปี แต่ญาติเหยื่อโกรธแค้น ร้องว่า “ฆาตกรโหดขนาดนี้ต้องตายคาคุก!” อัยการยื่นอุทธรณ์ ปี 2008 ศาลตัดสินใหม่ให้ จำคุกตลอดชีวิต ที่เรือนจำ โพลาร์ โอวล์ ในยามาโล-เนเนตส์ คุกที่หนาวเย็นและโหดร้ายราวนรกเยือกแข็ง! ถึงวันนี้ ซามานอฟยังคงถูกขังอยู่ที่นั่น ใช้ชีวิตในความมืด อับดุฟัตโต ซามานอฟ ยังมีชีวิตอยู่ ณ ปี 2025 ถูกขังในเรือนจำ โพลาร์ โอวล์ ด้วยโทษจำคุกตลอดชีวิตตั้งแต่ปี 2008