อบุลญะบัร (Abul Djabar) "ฆาตกรผ้าโผกหัว" อัฟกานิสถาน

Abul Djabar ?-1970

อบุลญะบัร (Abul Djabar) "ฆาตกรผ้าโผกหัว" อัฟกานิสถาน

ข้อมูลเกี่ยวกับชีวิตในวัยเด็กของอบุลญะบัรนั้นแทบไม่มีบันทึกราวกับว่าเขาเกิดจากความมืดมิดของประวัติศาสตร์ มีเพียงการคาดเดาว่าเขาเกิดในช่วง ต้นศตวรรษที่ 20 (บางแหล่งระบุวันที่ 11 กรกฎาคม 1921 ในชนบทของในประเทศ อัฟกานิสถาน ชื่อของเขาคือ “อบุล ญะบัร” อาจเป็นเพียง นามแฝง ที่ทางการตั้งให้ แปลว่า “บิดาแห่งผ้าโพก” ในภาษาอาหรับ อ้างถึงอาวุธฆ่าประจำตัวของเขา ไม่มีใครรู้ชื่อจริง พ่อแม่ พี่น้อง หรือการศึกษาของเขา คาดว่าเขาน่าจะเติบโตในสภาพแวดล้อมที่ยากจนและมีการศึกษาน้อย อาจทำงานเป็น คนขับรถบรรทุก หรือ กรรมกร ซึ่งทำให้เขาเดินทางไปทั่วประเทศและเข้าถึงเหยื่อได้ง่าย

ชีวิตส่วนตัวของญะบัรเป็นปริศนา :

ไม่มีบันทึกว่าเขาแต่งงาน มีครอบครัว หรือมีเพื่อนสนิท บางแหล่งระบุว่าเขาเป็นชายรักร่วมเพศที่ต้องซ่อนตัวตนในสังคมอัฟกันที่เคร่งครัดตามศาสนาอิสลามซึ่งการรักเพศเดียวกันในยุคนั้นถือเป็นเรื่องต้องห้ามและอาจถูกลงโทษถึงตาย ความกดดันนี้อาจเป็นเชื้อเพลิงที่จุดไฟให้กับความวิปริตในจิตใจของเขา แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจนว่าอะไรเปลี่ยนชายผู้นี้ให้กลายเป็นปีศาจที่โหดร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์อัฟกานิสถาน ในช่วงค.ศ.1960s-1970s อัฟกานิสถานอยู่ในช่วงของความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและสังคม แต่โครงสร้างตำรวจและการสืบสวนยังล้าหลัง ชายหนุ่มและเด็กชายในจังหวัดคาบูลและพื้นที่ใกล้เคียงเริ่มหายตัวไปอย่างปริศนา ศพที่พบถูกทิ้งในที่เปลี่ยวมีร่องรอยถูกรัดคอและถูกข่มขืน อบุล ญะบัรเลือกเหยื่อจาก กลุ่มอ่อนแอ เด็กเร่ร่อน ชายหนุ่มที่เดินทางคนเดียว หรือคนที่ไม่มีครอบครัวตามหา เขาจะหลอกล่อด้วยข้อเสนอให้ โดยสารรถ หรือ ช่วยเหลือ ก่อนพาไปยังจุดเปลี่ยว เช่น ทุ่งนาหรือป่า เขาจะใช้ ผ้าโพกหัว (turban) ซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายทั่วไปในอัฟกานิสถาน รัดคอเหยื่อจนขาดใจ ขณะรัดคอ เขาจะ ข่มขืนเหยื่อ พร้อมกัน สะท้อนความโหดร้ายและความวิปริตทางเพศหลังฆ่า เขาจะทิ้งศพไว้ในที่เกิดเหตุ โดยไม่พยายามซ่อนร่องรอย จำนวนเหยื่อที่ยืนยันคือ 65 ราย แต่ตำรวจสงสัยว่าเขาอาจฆ่ามากถึง กว่า 300 คน ตัวเลขนี้มาจากการหายตัวไปของชายหนุ่มในพื้นที่ที่ญะบัรก่อเหตุ ซึ่งไม่เคยมีคำอธิบาย ความโหดร้ายของเขาทำให้ชายในคาบูลกลัวที่จะเดินทางคนเดียว และชื่อของ “นักรัดผ้าโพก” กลายเป็นคำเตือนที่เล่าขานในหมู่บ้าน

ในช่วงที่ญะบัรยังลอยนวล :

ทางการอัฟกันพยายามหยุดยั้งความตื่นตระหนกโดยการจับแพะรับบาป ผลจากการสืบสวนที่ขาดประสิทธิภาพและแรงกดดันจากสังคมทำให้ชายสองคนผู้บริสุทธิ์ (ไม่ทราบชื่อ) ถูกตัดสินว่ามีความผิดในคดีฆาตกรรมบางส่วนของญะบัรและถูกประหารชีวิตด้วยการแขวนคอก่อนที่ฆาตกรตัวจริงจะถูกจับโศกนาฏกรรมนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบยุติธรรมในยุคนั้น ซึ่งขาดทั้งเทคโนโลยีและการฝึกอบรมตำรวจที่เหมาะสม การตายของสองผู้บริสุทธิ์กลายเป็นบาดแผลที่ฝังลึกในใจของชุมชน และยิ่งทำให้คดีนี้เป็นที่จดจำในฐานะหนึ่งในคดีที่มืดมนที่สุด

การจับกุมอบุล ญะบัรในเดือน ตุลาคม 1970 ไม่ได้มาจากการสืบสวนที่ยอดเยี่ยมหรือแผนการอันแยบยล แต่เป็น โชคช่วย ล้วน ๆ! ขณะที่ญะบัรกำลังพยายามฆ่าเหยื่อรายล่าสุดด้วยวิธีเดิม รัดคอด้วยผ้าโพกขณะข่มขืน ตำรวจอัฟกัน ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจาก พอล กึนเทอร์ (Paul Günther) นักสืบชาวเยอรมันที่ประจำการในอัฟกานิสถานระหว่าง ค.ศ.1968-1972 เข้าจับกุมเขาได้คาหนังคาเขา รายละเอียดการมีส่วนร่วมของกึนเทอร์ยังคลุมเครือ แต่เชื่อว่าเขานำความเชี่ยวชาญด้านการสืบสวนจากเยอรมนีมาช่วยฝึกตำรวจท้องถิ่นและอาจมีบทบาทในการระบุพฤติกรรมของฆาตกร การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นใน จังหวัดคาบูล ซึ่งเป็นศูนย์กลางของการก่อเหตุของญะบัร การที่เขาถูกจับขณะลงมือทำให้ปฏิเสธไม่ได้ และนี่คือจุดสิ้นสุดของการครองความกลัวที่ยาวนานกว่าทศวรรษ

ญะบัรถูกนำเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีอย่างรวดเร็ว เนื่องจากหลักฐานชัดเจน—เขาถูกจับได้คาหนังคาเขา และอาจมีคำให้การจากพยานหรือร่องรอยที่เชื่อมโยงกับศพอื่น ๆ รายละเอียดของการพิจารณาคดีนั้นหายาก เนื่องจากเอกสารในยุค 1970s ของอัฟกานิสถานมีจำกัด และเทคโนโลยีการเก็บหลักฐาน เช่น ดีเอ็นเอ ยังไม่พัฒนา อย่างไรก็ตาม หลักฐานที่มีอยู่เพียงพอที่จะตัดสินว่าเขามีความผิดในข้อหา ฆาตกรรม และ ข่มขืน

ภาพ : อบุล ญะบัร กำลังถูกแขวนคอ

การตัดสินคดี :

ในวันที่ 21 ตุลาคม 1970 อบุล ญะบัรถูกตัดสินให้ ประหารชีวิตด้วยการแขวนคอ ที่เรือนจำในกรุงคาบูล การประหารครั้งนี้ดึงดูดความสนใจของสาธารณชนบางแหล่งระบุว่ามีผู้คนมารวมตัวเพื่อดูการลงโทษของ“ปีศาจผ้าโพก”ซึ่งสะท้อนถึงความโกรธแค้นและความโล่งใจของชุมชน ญะบัรสิ้นใจในวัยที่ไม่แน่ชัด (คาดว่าประมาณ 49 ปี หากเกิดในปี 2464/1921) และปิดฉากชีวิตอันน่าสะพรึงกลัวของเขา คดี อบุล ญะบัร คือฝันร้ายที่หลอกหลอนอัฟกานิสถาน ราวกับปีศาจที่ซ่อนอยู่ในผ้าโพกหัว ทุกครั้งที่ลมพัดผ่านทุ่งนาในคาบูล ชาวบ้านยังคงนึกถึงเงาของชายที่นำความตายมาสู่ผู้บริสุทธิ์และความอยุติธรรมที่ยังคงดังก้องในประวัติศาสตร์


ความคิดเห็น